ในการทำงานช่าง ไม่ว่าจะเป็นงานกลึง งานตัดโลหะ งานไม้ หรืองานซ่อมบำรุงทั่วไป สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือ เครื่องมือต้องคมอยู่เสมอ เพราะคมที่ดีช่วยให้ทำงานง่ายขึ้น ประหยัดแรง และได้ผลงานที่เรียบเนียน การลับคมจึงเป็นขั้นตอนสำคัญ ที่ช่างทั้งมือใหม่และมืออาชีพควรเรียนรู้วิธีการลับคมรวมถึงการใช้หินลับคม วันนี้แอดมินจะมาบอกเทคนิคการลับคมเครื่องมือช่างกันนะ
ทำไมการลับคมถึงสำคัญ
การลับคมเป็นทักษะพื้นฐานที่ทุกช่างควรมี ไม่ว่าจะเป็นงานไม้ งานโลหะ งานกลึง หรืองานครัวคมที่ดีจะ
- เพิ่มประสิทธิภาพการตัด/กัด ลดแรงต้านและความร้อนที่อาจะเกิดขึ้นได้ขณะตัดชิ้นงาน
- ให้ผิวชิ้นงานเรียบ สอดคล้องกับมาตรฐานงานที่ต้องการ
- ประหยัดเครื่องมือ (ถ้าลับถูกวิธีจะยืดอายุได้มากกว่าเปลี่ยนบ่อย)
การลับมีหลายวิธี แต่หลัก ๆ เราพูดถึงสองวิธีที่ใช้กันทั่วไป หินลับ (manual whetstone/honing stone) และ เครื่องลับคมแบบไฟฟ้า (electric sharpener / grinder / bench grinder / belt grinder)
พื้นฐานที่ต้องเข้าใจก่อนลับคม
ก่อนจะเริ่มลับคมเครื่องมือ ไม่ว่าจะใช้ หินลับ หรือ เครื่องลับไฟฟ้า มีสิ่งสำคัญที่ควรทำความเข้าใจ เพื่อให้ลับคมได้อย่างถูกวิธีและยืดอายุเครื่องมือ
1. ความแตกต่างของการลับและการขัด
- การลับคม (Sharpening): คือการเอาเนื้อเหล็กส่วนเกินออก เพื่อสร้างมุมคมใหม่ เหมาะกับเครื่องมือที่ทื่อมากหรือบิ่น
- การฮอนนิ่ง (Honing): คือการเก็บรายละเอียดคมที่มีอยู่แล้วให้เรียบและคมขึ้น ใช้กับเครื่องมือที่ยังไม่ทื่อมาก
- การขัดเงา (Stropping/Polishing): ขั้นตอนสุดท้าย ใช้หนังหรือวัสดุพิเศษขัดขอบคม เพื่อให้เรียบกริบและเพิ่มความคมกริบที่สุด



2. มุมลับคม (Sharpening Angle)
มุมลับคือหัวใจสำคัญของการลับคม เพราะจะส่งผลต่อทั้งความคมและความทนทาน
- มุมเล็ก (10–15°): คมมาก ตัดง่าย แต่คมสึกเร็ว (เช่น มีดครัวญี่ปุ่น)
- มุมกลาง (18–22°): สมดุลระหว่างคมกับความทนทาน (เช่น มีดครัวตะวันตก กรรไกร)
- มุมใหญ่ (25–30°): แข็งแรง เหมาะกับงานหนัก เช่น สิ่ว กบไม้ ดอกสว่าน

3. ค่าเกรดของหินหรือล้อ (Grit Size)
ความหยาบ–ละเอียดของหินหรือล้อที่ใช้ลับ มีผลโดยตรงต่อคุณภาพคม
- หยาบ (200–400): สำหรับซ่อมคมที่บิ่นหรือลับครั้งแรก
- กลาง (800–1000): สำหรับลับให้ใช้งานได้ทั่วไป
- ละเอียด (3000–8000+): สำหรับขัดเก็บรายละเอียดให้คมเรียบและเงา

4. การเกิด “ครีบเหล็ก” หรือ Burr
เมื่อเราลับคมถูกต้อง จะเกิดเศษเหล็กบาง ๆ ยื่นออกมาที่ขอบ เรียกว่า Burr
- การมี Burr คือสัญญาณว่าคมเริ่มเกิดขึ้นแล้ว
- หลังจากนั้นต้องลับอีกด้านจน Burr หาย และขัดเงาเพื่อให้คมสมบูรณ์

5. ความร้อนและการเสียคุณสมบัติของเหล็ก
โดยเฉพาะการใช้เครื่องลับไฟฟ้า ความร้อนสูงอาจทำให้เหล็ก “เสียความแข็ง” (soften) ได้
- ควรลับเป็นจังหวะสั้น ๆ และพักหรือแช่น้ำเพื่อลดความร้อน
- หากเห็นขอบเหล็กเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน แสดงว่าเหล็กร้อนเกินไปแล้ว
6. ความแตกต่างของวัสดุเครื่องมือ
- เหล็กคาร์บอน (Carbon Steel): คมง่าย แต่สึกและขึ้นสนิมไว
- สเตนเลส (Stainless): ทนสนิม ลับยากกว่าเล็กน้อย
- เหล็ก HSS (High Speed Steel): ใช้กับงานกลึงและสว่าน ทนความร้อนสูง ต้องใช้ล้อคุณภาพดี
- คาร์ไบด์ (Carbide): แข็งมาก ต้องใช้ล้อเพชรหรือบริการลับเฉพาะทาง
การลับคมด้วยหินลับ (Manual Whetstone) สำหรับงานกลึงและงานช่างโลหะ
ในงานกลึงและงานกัดโลหะ ความคมของเครื่องมือตัดมีผลโดยตรงต่อคุณภาพผิวงาน ความแม่นยำ และอายุการใช้งานของเครื่องมือ การลับคมด้วยหินลับแม้จะเป็นวิธีดั้งเดิม แต่ยังได้รับความนิยมในการ เก็บคม ปรับมุมคายเศษ (Relief/ Rake Angle) และแก้ไขเล็กน้อย ให้กับเครื่องมือตัดที่ใช้งานในงานกลึง
เครื่องมือตัดที่นิยมลับด้วยหินลับ
- เครื่องมือตัดแบบ Insert: ส่วนใหญ่เปลี่ยนแผ่นใหม่ แต่ในบางกรณีสามารถเก็บมุมด้วยหินเพชรได้
- สิ่วกลึง (Lathe Tool Bit): มักทำจาก HSS หรือคาร์ไบด์ ใช้หินลับเก็บปลายและขอบคม
- ดอกต๊าป (Tap): ใช้หินลับเก็บร่องนำหรือปลายเพื่อคืนความคม
- ดอกเอ็นมิล (End Mill): มักใช้หินเพชรหรือน้ำมันสำหรับเก็บคมฟันกัด

ประเภทของหินลับที่ใช้ในงานกลึง
- หินน้ำมัน (Oil Stone): เหมาะสำหรับ HSS ใช้เก็บคมและปรับองศา
- หินเพชร (Diamond Stone): ใช้กับคาร์ไบด์ หรือเครื่องมือที่แข็งมาก เช่น Insert, End Mill เคลือบแข็ง
- หินสังเคราะห์ละเอียด (Synthetic Whetstone): สำหรับงานเก็บคมทั่วไป
ขั้นตอนการลับคมเครื่องมือตัด
- กำหนดองศา:
- สิ่วกลึง HSS → Relief Angle ประมาณ 5–12°, Rake Angle 10–20°
- ดอกต๊าป → เก็บเฉพาะขอบนำ ไม่เปลี่ยนองศาหลัก
- ดอกเอ็นมิล → เก็บขอบคมที่บิ่นเล็กน้อย ไม่ปรับโครงสร้างคมมาก
- เตรียมหินลับ:
- ใช้น้ำมัน (สำหรับ Oil Stone) หรือใช้น้ำ (สำหรับหินเพชร/น้ำ)
- ตรวจสอบให้หินเรียบเสมอ เพื่อให้ได้องศาที่แม่นยำ
- การลับ:
- วางเครื่องมือบนหินลับในองศาที่กำหนด
- ลากเครื่องมือไป-กลับในทิศทางเดียวกับคมตัด
- ใช้แรงสม่ำเสมอ ไม่กดแรงเกินไป เพราะอาจเปลี่ยนองศาหรือทำให้เครื่องมือบิ่นเพิ่ม
- ตรวจสอบคม:
- ใช้แว่นขยายดูว่าคมเรียบและไม่มี Burr
- ทดลองขูดบนผิวงานตัวอย่างเพื่อทดสอบการตัด
ข้อดีและข้อเสียของการลับด้วยหินในงานช่างกลึง
ข้อดี
- ประหยัด ไม่ต้องใช้เครื่องลับไฟฟ้าขนาดใหญ่
- ควบคุมมุมละเอียดได้ เหมาะกับการเก็บงานเฉพาะจุด
- ยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือ โดยไม่ต้องเปลี่ยนใหม่ทันที
ข้อเสีย
- ไม่เหมาะกับการลับที่ต้องการคืนรูปคมทั้งหมด (ควรใช้เครื่องลับไฟฟ้าแทน)
- ใช้เวลาและต้องมีทักษะ เพื่อควบคุมองศาให้ถูกต้อง
- หากลับผิดองศา อาจทำให้คุณภาพผิวงานกลึงลดลง และเครื่องมือสึกเร็ว
ดังนั้น การลับคมด้วยหินลับในงานกลึงเหมาะสำหรับ การซ่อมแซมและเก็บคมเล็กน้อย บนเครื่องมือตัด โดยเฉพาะสิ่วกลึง HSS และดอกเอ็นมิลบางประเภท ส่วนงานที่ต้องการความแม่นยำสูงหรือคมใหม่ทั้งชิ้น ควรใช้เครื่องลับไฟฟ้าเฉพาะทางควบคู่กัน
การลับคมด้วยเครื่องลับไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องลับไฟฟ้าที่ใช้กันบ่อย
- Bench grinder (ล้อเจียรแบบตั้งโต๊ะ) — ล้อทรายหรือล้อคาร์ไบด์ เหมาะกับการสร้างมุมหยาบของเครื่องมือตัดโลหะ
- Belt grinder (สายพานเจียร) — ยืดหยุ่น ปรับองศาง่าย เหมาะกับมีดและเครื่องมืองานหนัก
- Dedicated electric sharpeners (multi-stage sharpeners) — เครื่องสำเร็จรูปสำหรับมีด/กรรไกร ที่มีรางมุมและรหัสเกรดให้
- Handheld electric sharpeners — สำหรับมีดใช้ในบ้าน ใช้ง่ายแต่ความละเอียดจำกัด

การเตรียมเครื่องและความปลอดภัย
- สวมแว่นป้องกัน, ผ้าปิดหู (หากดัง), ไม่สวมถุงมือเมื่อใช้ล้อหมุนเร็ว (ถุงมืออาจติดเข้ากับล้อ)
- ตรวจสภาพล้อ/สายพาน: ไม่มีร้าว, ตึงพอดี, ไม่มีเศษเหล็กเกาะ
- ตั้ง tool rest/guide ให้ใกล้พื้นผิวล้อที่สุดเพื่อควบคุมมุม
- มีน้ำหล่อเย็น/พักเป็นช่วงๆ เพื่อหลีกเลี่ยงความร้อนสูงเกินไป
ขั้นตอนการใช้งาน (ตัวอย่าง Bench Grinder / Belt Grinder)
- เลือกล้อ/สายพานที่เหมาะสม: หยาบสำหรับลบคม, ละเอียดสำหรับปรับมุม
- ตั้งมุมโดยใช้ tool rest หรือ jig — หลีกเลี่ยงการถือมุมด้วยสายตาเท่านั้น
- จับเครื่องมือให้แน่นและส่งเข้าไปช้า ๆ — อย่ากดหนัก ให้ผิวล้อกัดชิ้นงานทีละน้อย
- ใช้การเคลื่อนแบบเป็นช่วง ๆ (intermittent contact) — แตะ-ถอย เพื่อให้เย็นและไม่เผาแดงขอบ
- ตรวจสอบสีของเหล็ก — ถ้าเห็นสีน้ำเงิน (blueing) หมายถึงความร้อนสูง เกิดการลดความแข็ง ให้หยุดและแช่น้ำ/พัก
- ปรับด้วยหินละเอียดหรือ strop หลังเครื่อง — เพื่อให้คมเรียบและลบน้ำกัดลึก ๆ
ข้อควรระวังพิเศษ
- ห้ามใส่ถุงมือที่มีส่วนที่หยุ่นพอดีกับเครื่องบด (risk of entanglement)
- อย่าใช้แรงกดมาก — จะเกิดความร้อนและสูญเสียโลหะมากเกินไป
- อย่าลับ carbide ด้วยล้อธรรมดา — ต้องใช้ล้อเพชร
ข้อดี-ข้อเสียของเครื่องลับไฟฟ้า (สรุป)
- ข้อดี: รวดเร็ว, เหมาะกับงานปริมาณมาก, ไม่ต้องชำนาญมาก (สำหรับเครื่องสำเร็จรูป)
- ข้อเสีย: ควบคุมละเอียดสู้มือไม่ได้เสมอ, เสี่ยงเกิดความร้อน/เสียรูป, ค่าใช้จ่ายและการบำรุงรักษาสูงกว่า
เปรียบเทียบแบบเห็นภาพชัดๆเพื่อเลือกใช้งานได้ง่าย (หินลับ vs เครื่องลับไฟฟ้า)
ปัจจัย | หินลับ | เครื่องลับไฟฟ้า |
---|---|---|
ความแม่นยำ/ความละเอียด | สูง (ขึ้นกับช่าง) | ปานกลาง—สูง (ขึ้นกับเครื่อง) |
ความเร็ว | ช้า | เร็ว |
ต้นทุนเริ่มต้น | ต่ำ–ปานกลาง | ปานกลาง–สูง |
เหมาะกับงานจำนวนมาก | ไม่เหมาะ | เหมาะ |
ความเสี่ยงความร้อน/เสียสมบัติ | ต่ำ | สูงกว่าหากใช้ไม่ระวัง |
ความยากในการเรียนรู้ | ต้องฝึก | ง่ายกว่า (แต่ใช่เทคนิค) |
แนะนำวิธีตามประเภทเครื่องมือ (Practical guidance)
- มีดครัว:
ถ้าบ้าน → ใช้หินลับ (หรือเครื่องลับสำเร็จรูป) — จบด้วย strop;
ถ้าภัตตาคาร → ใช้ combination (เครื่องลับหยาบ + หินละเอียด + strop)

- สิ่วและใบกบ (woodworking chisels/plane irons):
ใช้หินลับ (25–30°) + strop — คนทำเฟอร์นิเจอร์ชอบทางนี้เพราะต้องการผิวคมละเอียด - ดอกสว่าน (twist drill):
การลับซับซ้อนเล็กน้อย — มุมจุด 118° หรือ 135° ตามวัสดุ;
ถ้าไม่ชำนาญ ส่งช่างเฉพาะทางหรือใช้ดอกใหม่ - ดอกต๊าป (tap):
ลับยากและเสี่ยงเปลี่ยนเกลียว — ปกติแนะนำเปลี่ยนใหม่หรือส่งโรงงานลับเฉพาะทาง - ดอกกัด/Endmill / ใบมีดกลึง (HSS):
สามารถลับได้แต่ต้องใช้ jig/เครื่องเจาะพิเศษ — งานระดับอุตสาหกรรมหรือช่างเฉพาะทาง - คาร์ไบด์ (Carbide): ต้องใช้ล้อเพชรหรือส่งบริการมืออาชีพ
เทคนิคลับ ๆ ที่ช่างมืออาชีพใช้
- “สร้างมุมหยาบด้วยเครื่อง → เก็บรายละเอียดด้วยหิน → ขัดด้วย strop” = วิธีที่สมดุลที่สุด
- ใช้แอลกอฮอล์เช็ดก่อน Strop เพื่อป้องกันน้ำมัน/ฝุ่นขัดเกาะ
- หมายเลขจังหวะเท่า ๆ กัน (เช่น 12 ครั้งต่อด้าน) เพื่อความสมดุลของคม
- ใช้ magnifier/กล้องจุลทรรศน์มือถือ เพื่อตรวจขอบคมถ้าต้องการความแม่นยำสูง
- สำหรับมีดพิเศษ ให้จดองศาที่ใช้ จะได้ซ้ำความคมเดิมได้ในอนาคต
การดูแลรักษาเครื่องมือและอุปกรณ์หลังการลับ
- หิน: ทำความสะอาด ล้างเศษเหล็ก และ flatten เมื่อจำเป็น
- ล้อ/สายพานเครื่องลับ: dressing (แต่งหน้า) wheelด้วย diamond dresser, เปลี่ยนสายพานตามสภาพ
- เก็บมีด/เครื่องมือในที่แห้ง ทาน้ำมันบาง ๆ กับเหล็กที่เป็นสนิมง่าย
- บันทึกประวัติการลับ (สำหรับงานอุตสาหกรรม) — ช่วยคุมคุณภาพ
ปัญหาที่พบบ่อยและการแก้ไข
- คมไม่สม่ำเสมอ → มุมไม่คงที่: ใช้ jig หรือชะลอความเร็วฝึกให้คงมุม
- เกิดสีน้ำเงิน (overheating) → หยุด แช่น้ำ/พัก/แทนวิธีการทำให้เย็นลง แล้วลับซ้ำด้วยแรงกดน้อยลง
- ลบคมออกมากเกินไป → หากเป็นกรณีรุนแรงต้องปรับมุมรวมให้ใหญ่ขึ้นแล้วลับใหม่ (เสียเหล็กมาก)
- คมชำรุด/บิ่นใหญ่ → ต้องใช้หินหยาบหรือเครื่องลับหยาบก่อน แล้วจึงละเอียดต่อ
ความปลอดภัย (ข้อควรปฏิบัติสำคัญ)
- สวม แว่นนิรภัย, ที่อุดหู หากเสียงดัง, หน้ากากกันฝุ่น เมื่อลับเกิดฝุ่นละเอียด
- อย่าใส่ถุงมือกับเครื่องที่มีชิ้นส่วนหมุนเร็ว (risk of entanglement) — แต่เมื่อใช้หินมือถือละเอียด บางคนใส่ถุงมือกันบาดได้เมื่อปลอดภัย
- ตรวจสภาพเครื่องก่อนใช้งาน, ตั้ง tool rest ใกล้ล้อที่สุด, ตรวจ guard
- อย่าทดสอบคมด้วยวิธีเสี่ยง (เช่น ใช้นิ้วดึงผ่านขอบ) — ใช้กระดาษหรือวิธีปลอดภัยอื่นแทน

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: ควรลับคมบ่อยแค่ไหน?
A: ขึ้นกับการใช้งาน — ถ้าใช้หนักทุกวัน ควรลับ/ฮอนนิ่งทุกวันหรือสองวันครั้ง เพื่อรักษาคม ถ้าใช้เล็กน้อยตรวจคมก่อนใช้งานแล้วลับเมื่อรู้สึกทื่อ
Q: ควรใช้หินน้ำหรือหินน้ำมัน?
A: หินน้ำลับง่ายและให้ผลรวดเร็ว เหมาะกับงานทั่วไป; หินน้ำมันทนนานกว่า ขึ้นอยู่กับความชอบและชนิดเหล็ก
Q: ควรซื้อเครื่องลับแบบไหนสำหรับร้านเล็ก?
A: เครื่องสายพาน (belt grinder) ขนาดกลางหรือเครื่องลับมัลติสเตจสำหรับมีด เป็นทางเลือกที่คุ้มค่า — แต่เลือกตามงบและพื้นที่
Q: ลับคาร์ไบด์ได้ไหม?
A: ต้องใช้ล้อเพชรหรือบริการจากผู้เชี่ยวชาญ — ล้อธรรมดาจะไม่สามารถลับคาร์ไบด์ได้ดีและอาจเร็วสึก
กำลังมองหา อุปกรณ์เครื่องมือช่างและอุตสาหกรรม คุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือตัดหรืออุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เช่น ครีมเพชร ดอกเจาะกระจก ดอกเจียร์คาร์ไบด์ ตะไบ ตะไบเพชร ตะไบเหล็ก ล้อเพชร ลูกขัดกระดาษทราย ลูกขัดเพชร ลูกขัดสักหลาด ลูกยางเจียร หิน CBN หินขัด เครื่องเจียรตะไบ เพชรแต่งหิน เครื่องเจียรลม รวมถึงเอ็นมิลคาร์ไบด์ 2 ฟัน และ 4 ฟัน
ติดต่อเราได้ที่ โทร. 092-252-7567, 063-148-9962
หรือแอดไลน์ @kulsub เพื่อสอบถามข้อมูลและสั่งซื้อได้ตลอด 24 ชั่วโมง